วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

นิทานของกระดาษ

กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้... มีกระดาษสีขาวอยู่แผ่นหนึ่ง ที่อยากจะออกมาผจญภัยนอกกองกระดาษ มันจึงตัดสินใจเลื่อนตัวเองออกมาจากรีมกระดาษที่เคยอยู่ และออกเดินทางค้นหาสิ่งใหม่ๆที่มันไม่เคยพบเคยเห็น ซึ่งทำให้กระดาษแผ่นนี้ได้ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆมากมายเกินกว่าที่จะบรรยาย ได้หมด แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้มันต้องจดจำไปชั่วชีวิต เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้มันไม่สามารถกลับไปเป็นกระดาษสีขาวแผ่นเดิมได้อีก...

เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อกระดาษได้เป็นเพื่อนกับปากกา ปากกากับกระดาษเข้ากันได้เป็นอย่างดีเพราะปากกานั้นอยากที่จะลองเขียนข้อ ความและวาดลวดลายใส่บนตัวกระดาษที่ขาวสะอาด แต่กระดาษก็ยังคงห่วงความขาวสะอาดของตนเอง ไม่อยากให้ตนเองต้องเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำหมึกจากปากกา จึงปฏิเสธปากกาอยู่เรื่อยมา ถึงอย่างนั้นปากกาก็ยังคงเก็บความต้องการของตน อยู่ในใจ และยังคงยอมเป็นเพื่อนกับกระดาษ

จนกระทั่ง...ในวันหนึ่งขณะที่กระดาษกำลังจะเดินผ่านดินสอที่อยู่ข้าง ทาง จู่ๆดินสอก็พุ่งปลายแหลมสีดำของตนเองเข้ามาขีดเขียนข้อความใส่กระดาษอย่าง บ้าคลั่ง กระดาษผู้น่าสงสารไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ จึงถูกดินสอขีดเขียนจนเต็มหน้ากระดาษ

หลังจากนั้นดินสอก็จากไป ทิ้งให้กระดาษที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคาร์บอนเศร้าโศกกับรอยเปื้อนที่ดินสอเป็น ผู้มอบให้ กระดาษแบกรับคาร์บอนไว้บนตัว และตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไปหาเพื่อนเก่าของตนนั่นคือกองกระดาษกองเดิมที่ ขาวสะอาดและถูกเก็บเรียบร้อยอยู่ในซอง

"กลับไปซะ เจ้าไม่ขาวสะอาดเหมือนพวกเราอีกแล้ว" กระดาษสีขาวสะอาดแผ่นหนึ่งในกองกระดาษพูดขึ้น

"เจ้ามีเนื้อตัวมอมแมมเช่นนี้ หากอยู่รวมกับพวกเราจะทำให้เราเลอะไปด้วย" กระดาษ อีกแผ่นหนึ่งพูดขึ้น แม้กระดาษในกองนั้นจะไม่ได้พูดเหมือนกันทุกแผ่น แต่ก็ไม่มีกระดาษแผ่นใดยอมรับกระดาษเปื้อนคาร์บอนแผ่นนี้เลย กระดาษแผ่นนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเดินทางกลับไปหาปากกา เพื่อนซึ่งมันได้พบระหว่างการผจญภัย เพื่อให้ปากกาช่วยเหลือ

เมื่อกระดาษเดินทางมาถึงที่พักของปากกา จึงเรียกให้ปากกาออกมาหา เมื่อปากกาเห็นกระดาษ ปากกาไม่สามารถจำกระดาษได้เลย เพราะกระดาษไม่ได้ขาวสะอาดเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่เมื่อได้คุยกันจึงเชื่อว่ากระดาษที่อยู่ตรงหน้าเป็นกระดาษแผ่นเดียวกับ ที่เป็นเพื่อนของตน ปากกาจึงตอบตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือกับกระดาษซึ่งเป็นเพื่อนของเขา

ปากกาตัดสินใจจะพากระดาษไปพบกับยางลบซึ่งเป็นเพื่อนของเขา ทั้งคู่จึงเริ่มออกเดินทางไปหายางลบ

ระหว่างทาง...กระดาษกับปากกาก็ได้พบกับกระดาษอีกเป็นจำนวนมากซึ่งอยู่ใน กองกระดาษReuse ซึ่งกระดาษทุกแผ่นในกองนั้นล้วนแล้วแต่มีร่องรอยเปรอะเปื้อนเต็มหน้า กระดาษ1หน้า และมีด้านที่ยังขาวสะอาดอีกหนึ่งด้าน ในจำนวนนั้นมีกระดาษบางแผ่นซึ่งถูกดินสอขีดเขียนใส่เช่นเดียวกันกับกระดาษ แผ่นนี้

กระดาษในกองนั้นต่างก็พยายามชักชวนให้กระดาษแผ่นนี้เข้าไปอยู่ด้วย และได้พูดขึ้นว่า

"ถึงจะถูกขีดเขียนไปแล้วหนึ่งด้าน แต่เจ้าก็ยังมีประโยชน์อยู่นะ"  กระดาษที่ถูกหมึกพิมพ์ไปแล้วด้านหนึ่งพูดขึ้น

"มาอยู่กับพวกเราเถอะ อีกด้านหนึ่งของเจ้ายังใช้ได้ พวกเราเหมือนกันนะ"  กระดาษที่ถูกดินสอเขียนลงไปบนตัวเหมือนกันได้ชักชวนซ้ำ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กระดาษที่เคยขาวแผ่นนี้เปลี่ยนใจ และยังตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าต่อไปเพื่อพบกับยางลบ....

เมื่อกระดาษและปากกา ได้พบกับยางลบ ยางลบได้ตอบตกลงที่จะช่วยกระดาษ ลบรอยคาร์บอนที่ดินสอทิ้งไว้ออกให้ แต่กระดาษจะต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก ซึ่งกระดาษก็ตอบตกลง การลบจึงได้เริ่มต้นขึ้น เสียงร้องของกระดาษทำให้ปากกากระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้คิดจะทิ้งเพื่อนและเดินทางกลับไปก่อน...

หลายชั่วโมงผ่านไป การลบของยางลบก็เสร็จสิ้น ซึ่งก็ทำให้ยางลบหดเล็กลงไปมาก แต่ยางลบก็เต็มใจที่จะทำเพื่อความขาวสะอาดของกระดาษ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้น ยังไม่เป็นที่พอใจของกระดาษเท่าใดนัก เพราะยังมีบางจุดบนกระดาษที่ยังมีรอยคาร์บอนจางๆที่ลบไม่ออกอยู่ นอกจากนี้ยังบางจุดบนตัวกระดาษที่เป็นขุย ทำให้กระดาษแผ่นนี้ไม่ขาวเหมือนเดิม

อย่างไรก็ดีกระดาษก็ขอบคุณยางลบและเดินทางกลับพร้อมกับปากกา ...ระหว่างทางกระดาษได้พบกับกองกระดาษReuseอีกครั้ง ซึ่งกระดาษในกองก็ยังได้ชักชวนกระดาษแผ่นนี้อีกเช่นเคย แต่กระดาษแผ่นนี้ก็ยังตัดสินใจว่าจะลองกลับไปหากระดาษสีขาวกองเก่าที่ตนเคย อยู่มาก่อน

และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กระดาษแผ่นนี้ถูกปฏิเสธ
"ไปซะเถอะ เจ้ายังมีรอยเลอะอยู่เลย จะมาอยู่กับพวกเราได้ยังไง"
"ผิวของเจ้าไม่เรียบเหมือนแต่ก่อนแล้ว จะเอามาใช้ประโยชน์แบบพวกเราได้ยังไง"

เสียงขับไล่ของเพื่อนเก่าที่เคยอยู่ในกองเดียวกันทำให้กระดาษเสียใจเป็น อย่างมาก ปากกาต้องคอยปลอบไม่ให้กระดาษเสียใจ และได้บอกกับกระดาษว่าเขายังรู้จักเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งสามารถทำให้รอยดินสอ กับขุยกระดาษบนตัวกระดาษหายไปได้

เมื่อได้ยินเช่นนั้นกระดาษแผ่นนี้ดีใจเป็นอย่างมาก เขากำลังมีความหวังอีกครั้งหนึ่ง....

หลังจากเดินทางไปไม่นานนักเขาก็ไปถึงบ้านของเพื่อนของปากกาที่มีชื่อว่า กรรไกร กรรไกรบอกกับกระดาษว่าจะทำให้ร่องรอยเลอะเทอะทั้งหมดไม่อยู่บนตัวของกระดาษ อีก แต่กระดาษจะต้องทนเจ็บมากกว่าที่ยางลบเคยทำกับกระดาษ

กระดาษอยากได้ความขาวที่ไม่มีรอยเปื้อนกลับคืนมา กระดาษจึงตัดสินใจยอมให้กรรไกรจัดการ

เมื่อเป็นเช่นนั้นกรรไกรจึงตัดรอยเปื้อนและขุยทั้งหลาย บนตัวของกระดาษออก ซึ่งนั่นทำให้กระดาษกลับมาขาวสะอาดทั้งแผ่นอีกครั้ง...

กระดาษซึ่งเปลี่ยนโฉมไปจากเดิมได้ตัดสินใจเดินทางกลับไปหากองกระดาษกอง เดิมที่เขาเคยอยู่อีกครั้ง ซึ่งคำตอบที่เขาได้รับคราวนี้กลับทำให้เขาเสียใจมากไปกว่าเดิมอีก

"ถึงเจ้าจะขาวไปทั้งตัว แต่เจ้าเป็นกระดาษที่ขาด จะไปมีประโยชน์เหมือนพวกเราได้ยังไง"

เสียงนั่นทำให้กระดาษเศร้าใจเป็นอย่างมาก และไม่คิดที่จะกลับไปหากองกระดาษกองเดิมอีก หลังจากที่นั่งเศร้าใจอยู่พักหนึ่ง มันก็คิดได้ว่ายังมีกองกระดาษReuse ซึ่งเคยเรียกให้มันเข้าไปอยู่ด้วยถึงสองครั้ง มันจึงไม่รอช้ารีบเดินทางไปหากองกระดาษกองนั้น
"ขอฉันเข้าไปอยู่กับพวกเธอด้วยสิ" กระดาษสีขาวที่เต็มไปด้วยรู เอ่ยขึ้น
"ไม่ได้หรอก ถึงเธอจะขาวสะอาดกว่าพวกเรา แต่เธอก็มีแต่รู ไม่ได้เป็นกระดาษเต็มแผ่นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว"กระดาษเปื้อนหมึกแผ่นหนึ่งเอ่ยขึ้น
"ใช่ เธอไม่ได้มีหน้าว่างที่ขีดเขียนได้เต็มที่เหมือนกับพวกเรา เธอจะอยู่กับพวกเราไม่ได้หรอก" กระดาษ ที่เปื้อนรอยดินสอพูดขึ้น และนั่นทำให้กระดาษสีขาวที่มีร่องรอยการถูกตัด รู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปร่วมกับกองกระดาษ Reuse ตั้งแต่แรก

....
...
..
.

"อย่าเสียใจไปเลย" ปากกาซึ่งคอยตามกระดาษมาห่างๆได้ปรากฏตัวขึ้น มันเดินตามกระดาษมาตลอดทาง เพราะความเป็นห่วงว่ากระดาษจะสามารถหาเพื่อนได้หรือไม่
"ตอนนี้ฉันเข้ากับใครก็ไม่ได้ ฉันมันไร้ค่า" กระดาษที่เต็มไปด้วยรูพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
"ไม่มีใครไร้ค่าหรอก เธอยังมีค่ากับโลกใบนี้อยู่" ปากกายังคงพูดปลอบใจกระดาษ
"ฉันนี่นะ มีค่า" กระดาษพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ปนสะอื้น เพราะคิดว่าปากกาแค่พูดปลอบไปตามสถานการณ์แต่ไม่ได้พูดจากใจจริง
"เธอยังมีค่าอยู่ ฉันสามารถทำให้เธอมีประโยชน์ขึ้นมาได้" ปากกาพูดย้ำถึงคุณค่าในตัวของกระดาษที่เต็มไปด้วยรูอีกครั้ง
"ยังไงล่ะ" กระดาษเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหูของตนเอง

....
...
..
.

หลังจากนั้นไม่นาน ไม่มีใครพบเห็นกระดาษสีขาวที่เต็มไปด้วยรูแผ่นนั้นอีก แต่บรรดาอุปกรณ์เครื่องเขียนทั้งหลาย ได้พูดกันว่าที่หน้าร้านขายเครื่องเขียนแห่งหนึ่งจะมีโมบายกระดาษสีขาวมี แผ่นหนึ่ง ซึ่งมีลวดลายสวยงามถูกแขวนประดับอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น